คำอธิบายผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2549

Back

16 พฤศจิกายน 2549



บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
         คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
         ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานรวมของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
         และบริษัทย่อย ประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2549
        

        

         ภาพรวมผลการดำเนินงาน
        

         บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 3
         ปี 2549 จำนวน 431.7 ล้านบาท อยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ
         มีกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าเช่าและบริการ แต่ในขณะเดียวกันมี
         ดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้เมื่อเดือนมิถุนายน 2549 ในการวิเคราะห์
         ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ขอให้ข้อสังเกตเพื่อประกอบการวิเคราะห์และ
         เปรียบเทียบผลการดำเนินงานรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยระหว่างไตรมาสที่ 3
         ปี 2548 และปี 2549 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 นี้
         ไม่ได้รวมผลการดำเนินงานส่วนใหญ่ของโครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และ
         โครงการเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ซึ่งถูกโอนไปให้กับ CPNRF  จากการที่
         บริษัทฯ ได้ทำสัญญาเช่าการเงินทรัพย์สินส่วนใหญ่ของโครงการเซ็นทรัลพลาซา
         พระราม 2 และโครงการเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ให้แก่ CPNRF ตั้งแต่เดือน
         สิงหาคม ปี 2548 ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของผลการดำเนินงานเมื่อ
         เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติม  ในบท
         วิเคราะห์นี้ บริษัทฯ ได้ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการดำเนินงานโดยไม่รวม
         โครงการเซ็นทรัล พลาซาพระราม 2 และโครงการเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3
         ทั้งไตรมาสที่ 3 ปี 2548 และปี 2549 เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของ
         โครงการอื่นของบริษัทฯ นอกจากนี้ ในระหว่างไตรมาสที่ 3 ปี 2548  มีรายการที่ไม่
         เกิดขึ้นเป็นประจำ (non-recurring item) 2 รายการ ดังนี้ 1) กำไรจากการทำ
         สัญญาเช่าทางการเงิน (financial lease) สำหรับสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของโครงการ
         เซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และโครงการเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ให้แก่
         CPNRF และ 2) การตั้งสำรองการด้อยค่าของที่ดินรอการพัฒนา(รายการที่ไม่ใช่เงินสด)
        

         กำไรสุทธิ:
         * สำหรับไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 431.7 ล้านบาท ลดลง 80.1% เมื่อ
         เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 บริษัทฯ มีกำไร
         จากการทำสัญญาเช่าทางการเงินกับ CPNRF จำนวน 2,766.7 ล้านบาท (สุทธิหลังหัก
         ภาษีเท่ากับ 1,936.7 ล้านบาท) และการตั้งสำรองการด้อยค่าของที่ดินรอการพัฒนา
         จำนวน 406.6 ล้านบาท (สุทธิหลังหักภาษีเท่ากับ 284.6 ล้านบาท)
         * เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 0.1% เป็นผลจากการที่บริษัทฯ
         มีรายได้จากค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้นมากกว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันบริษัทฯ
         มีดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นด้วยจากหุ้นกู้จำนวนเงินรวม 1,500 ล้านบาท ที่ออกเมื่อเดือน
         มิถุนายน 2549
        

         รายได้รวม (รายได้จากค่าเช่าและบริการ และ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม):
         * บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 1,717.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส
         เดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารายได้ในไตรมาสนี้จะไม่รวมผลการดำเนินงานส่วนใหญ่ของ
         โครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ซึ่งโอนไป
         ยังกองทุน CPNRF ทั้งนี้เนื่องจากอัตราค่าเช่าต่อตารางเมตรและรายได้จากค่าบริการที่
         ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกโครงการ ประกอบกับการเปิดให้บริการของพื้นที่ส่วนขยาย
         ของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2549
         * บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2549 โดยมีสาเหตุ
         หลักมาจากรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้นจากการปรับอัตราค่าบริการใหม่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม
         2549 ในทุกโครงการ และรายได้ที่เพิ่มเข้ามาจากการเปิดให้บริการพื้นที่ส่วนขยายของ
         โครงการเซ็นทรัลเวิลด์
        

         กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA):
         * กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ลดลง 75.7%
         เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 บริษัทฯ มี
         กำไรจากการทำสัญญาเช่าทางการเงินกับ CPNRF
         * ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา
         และค่าตัดจำหน่าย จำนวน 912.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 9.6% ส่วนใหญ่
         เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการและรายได้อื่น
        

         ตารางที่1: สรุปข้อมูลทางการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2549
        

         งบการเงินรวมระหว่างกาล    ไตรมาส 3%   เปลี่ยนแปลงเทียบ   % เปลี่ยนแปลง
         ไตรมาสที่ 3 ปี 2549         (ล้านบาท)    กับไตรมาสก่อน     เทียบกับปีก่อน
        

         รายได้จากค่าเช่าค่าบริการและ   1,717.6       7.6%           2.6%
         ค่าขายอาหารเครื่องดื่ม
        

         กำไรขั้นต้น                   759.3        8.0%          (5.0%)
        

         กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,          912.5        9.6%         (75.7%)
         ภาษีเงินได้, ค่าเสื่อมราคา
         และค่าตัดจำหน่าย
        

         กำไรสุทธิ                    431.7        0.1%         (80.1%)
        

         กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (บาท)       0.2         0.1%         (80.1%)
        

        

         สรุปผลการดำเนินงานทางการเงิน
        

         รายได้รวม
        

         สำหรับไตรมาสที่  3 ปี 2549 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากค่าเช่าค่าบริการและค่าอาหาร
         และเครื่องดื่ม จำนวน 1,717.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน
         ของปีก่อน ประกอบด้วยรายได้จากค่าเช่าและบริการจำนวน 1,625.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
         3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าในไตรมาสนี้ผลการดำเนินงาน
         ส่วนใหญ่ของโครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3
         จะโอนไปยังกองทุน CPNRF รายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จาก
         โครงการอื่นที่สามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงดังกล่าวได้  ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้
         อาหารและเครื่องดื่มเท่ากับ 92.6 ล้านบาท ลดลง 12.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน
         ของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการปิดศูนย์อาหารที่โครงการเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-
         พระราม 3
        

         อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายได้ของโครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และเซ็นทรัล
         พลาซา รัชดา-พระราม 3 ซึ่งถูกโอนไปยังกองทุน CPNRF ทั้งในไตรมาสที่ 3 ปี 2549
         และปี 2548 แล้ว รายได้รวมจากค่าเช่าค่าบริการและค่าอาหารและเครื่องดื่มของ
         โครงการอื่นในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 12.0% โดยเป็นผลมา
         จากอัตราค่าเช่าต่อตารางเมตรที่ปรับตัวสูงขึ้นในทุกโครงการ, อัตราการเช่าพื้นที่ที่
         เพิ่มขึ้นของอาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์จาก 66% ในไตรมาสที่ 3 ปีก่อน เป็น 90%
         ในไตรมาสนี้, การรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากพื้นที่ขายส่วนขยายของโครงการ
         เซ็นทรัลทาวน์ รัตนาธิเบศร์ ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายน 2548, พื้นที่อาคาร
         สำนักงานที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดอาคารสำนักงานปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ บี เมื่อเดือนมีนาคม
         2549 และรายได้ค่าบริการร่วมและค่าบริการไอเย็น (common area and air
         conditioning services) ที่เพิ่มขึ้นหลังจากการปรับอัตราค่าบริการใหม่เมื่อเดือน
         สิงหาคมที่ผ่านมา
        

         เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2549  บริษัทฯ มีรายได้รวมจากค่าเช่าค่าบริการ
         และค่าอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 7.6% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าเช่าค่าบริการ
         เป็นหลัก ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 9.3% เหตุผลหลักมาจากรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น
         หลังจากการปรับอัตราค่าบริการใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในทุกโครงการและ
         รายได้ที่เข้ามาเพิ่มจากการเปิดให้บริการบางส่วนของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเดือน
         สิงหาคมที่ผ่านมา  นอกจากนี้อัตราค่าเช่าต่อตารางเมตรโดยรวมยังปรับสูงขึ้นทั้งจากการ
         ต่ออายุสัญญาเช่าของผู้เช่าเดิมและการทำสัญญาเช่าของผู้เช่ารายใหม่ในเกือบทุก
         โครงการ  รวมทั้ง อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในส่วนของอาคารสำนักงานได้เพิ่มขึ้นจาก
         86% ในไตรมาสที่ผ่านมา เป็น 90% ในไตรมาสนี้  สำหรับรายได้ค่าอาหารและ
         เครื่องดื่มในไตรมาสนี้ลดลง 15.7% จากไตรมาสก่อนตามปัจจัยฤดูกาลที่ในไตรมาสที่ 3
         มีวันหยุดและเทศกาลน้อยกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ประกอบกับผลกระทบจากการปิด
         ศูนย์อาหารที่โครงการเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3
        

         ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้อื่นจำนวน 190.6 ล้านบาท ลดลง 93.4% เมื่อเทียบกับ
         ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายอื่นในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 ได้รวมกำไรจาก
         การทำสัญญาเช่าทางการเงินสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของโครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2
         และเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ให้แก่ CPNRF จำนวนเงิน 2,766.7 ล้านบาท
         หากไม่รวมรายการดังกล่าวในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 แล้ว บริษัทฯ จะมีรายได้อื่นใน
         ไตรมาสที่ 3 ปี 2548 สูงขึ้น 70.6% เมื่อเทียบกับ 111.7 ล้านบาท ของไตรมาส
         เดียวกันของปีก่อน เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน บริษัทฯ มีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 77.6%
         จาก 107.3 ล้านบาท ในในไตรมาสที่ 2 ปี 2549  จากรายได้ค่าธรรมเนียมจาก
         กองทุนรวมธุรกิจไทย 4  สำหรับการพัฒนาและควบคุมการก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายของ
         โครงการเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคม 2549 และรายได้
         ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากการเป็นผู้บริหารสินทรัพย์ให้กับกองทุน CPNRF
        

         ต้นทุนรวม
        

         ต้นทุนรวม ได้แก่ ต้นทุนจากการให้เช่าพื้นที่และการให้บริการ ต้นทุนอาหารและเครื่องดื่ม
         รวมถึงค่าสาธารณูปโภค  ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่า  ค่าใช้จ่าย
         พนักงานผู้ปฎิบัติงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้เช่าและให้บริการพื้นที่โครงการ
         ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาสินทรัพย์ให้เช่า  และ ภาษีโรงเรือน สำหรับ
         ไตรมาสที่ 3 ปี 2549 บริษัทฯ มีต้นทุนรวมจำนวน 958.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อ
         เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี หากไม่รวมต้นทุนดังกล่าวของโครงการเซ็นทรัลพลาซา
         พระราม 2 และเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ซึ่งถูกโอนไปยังกองทุน CPNRF ทั้ง
         ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 และปี 2548 แล้ว ต้นทุนรวมของโครงการอื่นเพิ่มขึ้น 18.1%
         เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่
         เพิ่มขึ้นจากพื้นที่ส่วนขยายของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคม
         2549  ต้นทุนของพื้นที่ขายส่วนขยายของโครงการเซ็นทรัลทาวน์ รัตนาธิเบศร์ ซึ่งเปิดให้
         บริการเมื่อเดือนกันยายน 2548  และต้นทุนรวมที่เพิ่มขึ้นจากโครงการอื่นจากค่าไฟฟ้าที่
         สูงขึ้นตามอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่ปรับสูงขึ้น
        

         เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา  บริษัทฯ มีต้นทุนรวมเพิ่มขึ้น 7.3% จากต้นทุนที่เพิ่ม
         เข้ามาจากการเปิดให้บริการของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงค่าเสื่อมราคาและ
         ค่าตัดจำหน่ายจากพื้นที่ส่วนขยายและค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น
        

         ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
        

         ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ได้แก่ ค่าใช้จ่ายของพนักงานส่วนกลางของบริษัทฯและ
         ผู้บริหาร ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ ค่าเครื่องใช้สำนักงาน ค่าธรรมเนียมและค่าที่ปรึกษา
         ต่างๆ และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสำหรับอุปกรณ์สำนักงาน  ซึ่งในไตรมาสที่ 3
         ปี 2549 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวม 288.1 ล้านบาท ลดลง 54.5%
         จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารบางส่วนของ
         โครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ถูกโอน
         ไปยังกองทุน CPNRF ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2548 ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายและ
         บริหารของไตรมาสที่ 3 ปี 2548 รวมการตั้งสำรองการด้อยค่าของที่ดินรอการพัฒนา
         (รายการที่ไม่ใช่เงินสด) จำนวน 406.6 ล้านบาท  หากไม่รวมการตั้งด้อยค่าดังกล่าว
         และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของโครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และ
         เซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ซึ่งถูกโอนไปยังกองทุน CPNRF ทั้งในไตรมาสที่ 3
         ปี 2549 และปี 2548 แล้ว ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของโครงการอื่นเพิ่มขึ้น
         31.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
         ประชาสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับโครงการเซ็นทรัลเวิลด์และค่าใช้จ่ายของพนักงานส่วนกลาง
         และผู้บริหารของบริษัทฯที่เพิ่มขึ้น
        

         หากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา  บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น
         41.6% จากค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในการจัดกิจกรรมทางการตลาดใน
         ระหว่างและภายหลังการเปิดตัวการให้บริการของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ส่วนขยาย
        

         กำไรสุทธิ
        

         สำหรับไตรมาสที่  3 ปี 2549 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 431.7 ล้านบาท  ลดลงจาก
         งวดเดียวกันของปีก่อน 80.1% เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 บริษัทฯ มีกำไรจาก
         การทำสัญญาเช่าทางการเงินทรัพย์สินส่วนใหญ่ของโครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2
         และเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 กับ CPNRF จำนวน 2,766.7 ล้านบาท (สุทธิ
         หลังหักภาษีเท่ากับ 1,936.7 ล้านบาท) และการตั้งสำรองการด้อยค่าของที่ดินรอการ
         พัฒนาจำนวน 406.6 ล้านบาท (สุทธิหลังหักภาษีเท่ากับ 284.6 ล้านบาท)  หากไม่รวม
         กำไรจากการทำสัญญาเช่าทางการเงินกับ CPNRF และการตั้งสำรองการด้อยค่า
         ดังกล่าว รวมถึงรายการที่เกี่ยวข้อง (ภาษีสุทธิจากกำไรจากการทำสัญญาเช่าทาง
         การเงินและการตั้งสำรองการด้อยค่าฯ จำนวนรวม 708.0 ล้านบาท และส่วนแบ่งของ
         ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อยจากการตั้งสำรองการด้อยค่าฯจำนวนเงิน 113.9 ล้านบาท)
         สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2548 บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้สูงกว่าไตรมาสเดียวกัน
         ของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิหลังการปรับปรุงเท่ากับ 407.6 ล้านบาท อยู่ประมาณ 5.9%
         ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ตามที่กล่าวข้างต้น
        

         สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2549 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยมี
         กำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 698.9 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส
         ก่อน  แต่ในขณะเดียวกันบริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นด้วยจากการออกหุ้นกู้จำนวนเงิน
         รวม 1,500 ล้านบาท เมื่อเดือนมิถุนายน 2549 ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ในระดับใกล้เคียง
         เดิม  ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีดอกเบี้ยจ่ายเท่ากับ 184.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.0%
         จาก 141.8 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 ปี 2549
        

        

         ฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2549
        

         สินทรัพย์รวม
        

         ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 33,326.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
         สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 จำนวน 536.0 ล้านบาท หรือ 1.6% โดย
         สินทรัพย์หมุนเวียนลดลง 787.8 ล้านบาท หรือ 14.2% เป็นผลมาจากเงินสดที่ลดลงจาก
         การชำระค่าที่ดินสำหรับโครงการขอนแก่นและค่าก่อสร้างและปรับปรุงโครงการ
         เซ็นทรัลเวิลด์และปรับปรุงเพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน (project enhancements) ที่
         โครงการเซ็นทรัล พลาซา รามอินทรา และ โครงการเซ็นทรัล ทาวน์ รัตนาธิเบศร์
         เงินลงทุนชั่วคราวเพิ่มขึ้น 650.5 ล้านบาท จาก 3.4 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสก่อน จาก
         การลงทุนในตราสารหนี้โดยกองทุนรวมธุรกิจไทย 4  สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้น
         1,323.9 ล้านบาท หรือ 4.9% จากสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549
         ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายการอาคารและอุปกรณ์(สุทธิ) จากงานระหว่าง
         ก่อสร้างและปรับปรุงโครงการเซ็นทรัลเวิลด์, โครงการเซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา
         และโครงการเซ็นทรัล ทาวน์ รัตนาธิเบศร์
        

         หนี้สินรวม
        

         บริษัทฯ มีหนี้สินรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 เท่ากับ 21,103.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
         112.1 ล้านบาท หรือ 0.5% เมื่อเปรียบเทียบกับหนี้สินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน
         2549  โดยมีหนี้สินหมุนเวียนเท่ากับ 4,113.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จากไตรมาสที่
         ผ่านมา จากเจ้าหนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างและหนี้สินหมุนเวียนอื่นที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 154.6
         ล้านบาท และ 191.9 ล้านบาท ตามลำดับ  ในขณะที่มีหนี้สินไม่หมุนเวียนลดลง 213.8
         ล้านบาท หรือ 1.2% จากยอด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 จากหนี้สินระยะยาวที่มี
         ภาระดอกเบี้ยที่ลดลงจาก 9,451.1 ล้านบาท เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา เป็น 9,107.0
         ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 หรือลดลง 3.6% ซึ่งเป็นผลมาจากการชำระคืนหนี้ให้
         แก่กองทุนรวมธุรกิจไทย 2, 4 และ 5  ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 บริษัทฯ มีหนี้สินที่มี
         ภาระดอกเบี้ยเท่ากับ 11,331.5 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 53.7% ของหนี้สินรวม
        

         ส่วนของผู้ถือหุ้น
        

         บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 เท่ากับ 12,222.6 ล้านบาท
         เพิ่มขึ้น 423.9 ล้านบาท หรือ 3.6% เมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่
         30 มิถุนายน 2549  ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรสุทธิ 431.7 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นใน
         ไตรมาสนี้
        

        

         ความสามารถในการทำกำไร
        

         อัตรากำไรขั้นต้น
        

         สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2549 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 44.2% ลดลงจากไตรมาส
         เดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 47.7% ทั้งนี้หากไม่รวมผลการดำเนินงานของโครงการ
         เซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 ซึ่งถูกโอนไปยัง
         กองทุน CPNRF ทั้งในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 และปี 2548 แล้ว อัตรากำไรขั้นต้นของ
         โครงการอื่นของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 47.9% ลดลงจาก 50.6% ในช่วง
         เดียวกันของปีก่อน  เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ที่ต่ำกว่า
         โครงการอื่น อันเนื่องมาจากค่าสาธารณูปโภคที่สูงขึ้นและค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย
         สินทรัพย์ให้เช่าที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการพื้นที่ส่วนขยาย
        

         อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 44.1% สาเหตุ
         มาจากอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ที่ปรับสูงขึ้นและเริ่มมีรายได้คุ้มต้นทุน
         ค่าเช่าและบริการ
        

         อัตรากำไรสุทธิ
        

         อัตรากำไรสุทธิของไตรมาสที่ 3 ปี 2549 อยู่ที่ 22.2% ลดลงจาก 47.7% ของ
         ไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 รวมกำไรสุทธิ
         จากรายการที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ 2 รายการดังกล่าวข้างต้น  หากไม่รวมรายการที่
         ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำทั้ง 2 รายการนั้นแล้ว บริษัทฯ จะมีอัตรากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3
         ปี 2548 เท่ากับ 22.7%  โดยอัตรากำไรสุทธิที่ลดลงเล็กน้อยนั้น มาจากอัตรากำไร
         ขั้นต้นที่ค่อนข้างต่ำของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์
        

         เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 24.6% บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ
         ลดลงในไตรมาสนี้ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้
         จำนวนเงินรวม 1,500 ล้านบาท ส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 30.0%
         เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
        

         อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
        

         อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของไตรมาสที่ 3 ปี 2549 อยู่ที่ 15.1% ลดลงจาก
         89.2% ของไตรมาสเดียวกันในปีก่อน จากการที่บริษัทฯ มีกำไรจากการทำสัญญาเช่า
         ทางการเงินกับ CPNRF ในไตรมาสที่ 3 ปี 2548  เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
         อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับคงที่ที่ 16.0%
        

        

         โครงสร้างทางการเงิน
        

         ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 บริษัทฯ ยังคงมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและมีโครงสร้าง
         ทางการเงินที่มั่นคง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ
         0.6 เท่า โดยเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ มีส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย
         สุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจากมียอดเงินสดและรายการที่เทียบเท่าเงินสดลดลงจากการชำระค่า
         ที่ดินสำหรับโครงการทีจังหวัดขอนแก่นและค่าก่อสร้างโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ ในขณะ
         เดียวกัน ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรสุทธิที่
         เกิดขึ้นในไตรมาสนี้
        

         ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 บริษัทฯ มีอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ยลดลง
         จาก 6.5 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 เท่า เป็น 6.2 เท่า ในไตรมาสนี้  เนื่องจาก
         ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น 42.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.0% จากไตรมาสที่ผ่านมา
         จากการออกหุ้นกู้จำนวนเงินรวม 1,500 ล้านบาท เมื่อเดือนมิถุนายน 2549
        

         อัตราความสามารถในการชำระภาระผูกพันเพิ่มขึ้นจาก 0.5 เท่า ในไตรมาสก่อน มาอยู่
         ที่ 0.6 เท่า ในไตรมาสนี้ เนื่องจากบริษัทฯ มีภาระผูกพันลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
         ที่มีการจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 871.5 ล้านบาท
        

         ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 บริษัทฯ จ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 383.3
         ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการชำระคืนเงินกู้แก่กองทุนรวมธุรกิจไทย 2, 4 และ 5
         ณ 30 กันยายน 2549 เงินกู้ยืมที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทฯ ประกอบด้วยเงินกู้อัตรา
         ดอกเบี้ยคงที่ 61% และอัตราดอกเบี้ยลอยตัว 39% โดยมีอัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ย
         ถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 5.6% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 5.4% จากหุ้นกู้ที่ออก
         เพิ่มในเดือนมิถุนายน 2549 ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ยเดิม
         ประกอบกับสัดส่วนของหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเพิ่มขึ้น ซี่งดอกเบี้ยลอยตัวมีอัตราสูงกว่า
         อัตราดอกเบี้ยคงที่
        

         ตารางที่ 2: อัตราส่วนทางการเงิน
        

         อัตราส่วนทางการเงิน             ไตรมาส 3    ไตรมาส 2    ไตรมาส 3
                                       2548         2549        2549
        

         อัตราส่วนสภาพคล่อง
         อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า)           1.4        1.5         1.2
         อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (เท่า)     1.2        1.3         1.0
         อัตราส่วนสภาพคล่องกระแสเงินสด (เท่า) 1.0        0.4         1.2
         ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน)          3.3        7.2         8.5
        

         อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร
         อัตรากำไรขั้นต้น (%)                47.7%     44.1%       44.2%
         อัตรากำไรอื่น (%)                   0.0%      0.0%        0.0%
         อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (%)     174.3%     36.7%       34.1%
         อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย,         82.4%     47.6%       46.9%
         ภาษีเงินได้ , ค่าเสื่อมราคาและ
         ค่าตัดจำหน่าย (%)
         อัตรากำไรสุทธิ (%)                 47.7%     24.6%       22.2%
         อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (%)      38.0%     58.8%      195.4%
         อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (%)   89.2%     15.1%       15.1%
        

         อัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
         อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (%)        29.2%      5.2%        5.2%
         อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ถาวร (%)    37.3%      7.4%        7.1%
         อัตราการหมุนของสินทรัพย์ (เท่า)        0.6       0.2         0.2
        

         อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน
         อัตราส่วนความสามารถในการชำระ       0.2       0.5         0.6
         ภาระผูกพัน (เท่า) (1)
         อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า)   0.4       0.6         0.6
         อัตราส่วนความสามารถในการชำระ       6.6       6.5         6.2
         ดอกเบี้ย (เท่า) (1)
        

         หมายเหตุ:
         (1) กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ไม่รวมเงินสดที่ชำระเจ้าหนี้ตั๋วอาวัลซึ่ง
         ครบกำหนด
        

         
         การดำเนินงาน
        

         ณ วันที่ 30 กันยายน 2549  บริษัทฯ บริหารพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งหมด 825,524 ตาราง
         เมตร ประกอบด้วย พื้นที่อาคารศูนย์การค้า 673,958 ตารางเมตร  พื้นที่อาคาร
         สำนักงาน 145,193 ตารางเมตร และพื้นที่อาคารที่พักอาศัย 6,373 ตารางเมตร
         บริษัทฯ มีพื้นที่อาคารศูนย์การค้าให้เช่ารวมเพิ่มขึ้น 57,302 ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้น
         9.3% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ในส่วนขยายของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ที่เพิ่งเปิดให้
         บริการ ทำให้พื้นที่เช่าของโครงการเพิ่มขึ้น 59,932 ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้น 47.5%
         จากพื้นที่เช่า ณ ไตรมาสก่อนซึ่งเท่ากับ 126,045 ตารางเมตร  อนึ่ง พื้นที่ขายดังกล่าว
         ข้างต้น นับรวมพื้นที่ขายของโครงการเซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และเซ็นทรัลพลาซา
         รัชดา-พระราม 3 ซึ่งผลการดำเนินงานถูกโอนไปยังกองทุน CPNRF แต่ยังอยู่ในความ
         ดูแลของบริษัทฯ ในฐานะของผู้บริหารสินทรัพย์ของกองทุน CPNRF
        

         ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 บริษัทฯ อัตราการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 84% ลดลง
         จากไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งเฉลี่ยอยู่ 88%  สาเหตุสำคัญมาจากพื้นที่ว่างในโซนใหม่ที่เพิ่ง
         เปิดให้บริการของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ ประกอบกับพื้นที่เดิมของโครงการบางส่วนยัง
         อยู่ระหว่างการปรับปรุง อีกทั้งยังมีการปรับปรุงและปรับผังพื้นที่เช่าในโครงการเซ็นทรัล
         พลาซา รามอินทรา และ โครงการเซ็นทรัลพลาซา รัชดา-พระราม 3 โดยในไตรมาสนี้
         อัตราการเช่าพื้นที่โครงการเซ็นทรัลเวิลด์อยู่ที่ 51% ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งอยู่
         56% เนื่องจากมีพื้นที่ว่างจากโซนใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการ  สำหรับโครงการเซ็นทรัล
         พลาซา รามอินทรา การปรับปรุงพื้นที่โครงการเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี
         2549 และต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสนี้ และจากจำนวนพื้นที่ที่บริษัทฯ เช่า/เซ้งคืนจาก
         ผู้เช่าที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ของโครงการลดลงจาก
         65% ในไตรมาสก่อน เป็น 79% ในไตรมาสนี้  สำหรับโครงการเซ็นทรัลพลาซา
         รัชดา-พระราม 3  อัตราการเช่าพื้นที่ลดลงจาก 92% ในไตรมาสก่อน เป็น 88% ใน
         ไตรมาสนี้  จากการปรับปรุงพื้นที่เพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน (project enhancement)
         ซึ่งจะทำการปรับลดพื้นที่และย้ายทำเลที่ตั้งศูนย์อาหารและปรับพื้นที่เดิมของศูนย์อาหารเป็น
         พื้นที่ให้เช่าเพิ่มแก่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล  การปรับปรุงและปรับผังทั้งสองโครงการ
         ดังกล่าวข้างต้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1 และ 2 ปี 2550 ตามลำดับ
        

         ในส่วนของอาคารสำนักงาน บริษัทฯ มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 86% ใน
         ไตรมาสก่อน เป็น 90% ในไตรมาสนี้ จากอัตราการเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นของอาคาร
         สำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์และอาคารสำนักงานปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ บี ที่มีอัตราการเช่าพื้นที่
         เพิ่มขึ้นเป็น 90% และ 52% ตามลำดับ ในไตรมาสนี้
        

         ตารางที่ 3: สรุปพื้นที่ขายและอัตราการเช่าพื้นที่
        

         ศูนย์การค้า          รูปแบบ    พื้นที่ขาย          อัตราการเช่า
                                   (ตร.ม.)    ไตรมาส    ไตรมาส    ไตรมาส
                                               3/49      2/49      3/48
         
         ลาดพร้าว           พลาซา    55,443      99%      100%       99%
         รามอินทรา          พลาซา    13,585      65%       79%       86%
         ปิ่นเกล้า            พลาซา    56,689      96%       96%      100%
         พัทยา              เฟสติวัล   15,258     100%      100%      100%
         รัชดา-พระราม 3     พลาซ่า    52,777      88%       92%       97%
         เชียงใหม่           พลาซา    73,473      99%       95%      100%
         บางนา             พลาซา    57,713     100%      100%       97%
         พระราม 2          พลาซา    96,530      99%       98%       99%
         รัตนาธิเบศร์     ทาวน์เซ็นเตอร์  66,513      99%       99%       94%
         เซ็นทรัลเวิลด์        เวิลด์    185,977      51%       56%       78%
         รวม                       673,958      84%       88%       93%
         
        

         อาคารสำนักงาน        พื้นที่ขาย               อัตราการเช่า
                             (ตร.ม.)      ไตรมาส     ไตรมาส     ไตรมาส
                                           3/49        2/49      3/48
         
         ลาดพร้าว             18,134        100%       100%       98%
         ปิ่นเกล้า เอ           22,560         97%        98%       99%
         ปิ่นเกล้า บี (1)        11,335         52%        37%       n/a
         บางนา                9,796         98%       100%       97%
         เซ็นทรัลเวิลด์          83,368         90%        84%       66%
         รวม                145,193         90%        86%       78%
         
         หมายเหตุ:
         (1) อาคารสำนักงานปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ บี ทำการปรับปรุงแล้วเสร็จ
         เปลี่ยนจากที่พักอาศัยเป็นอาคารสำนักงาน ในช่วงต้นปี 2549